RICOH GR III ตัวเดียว…อยู่

เพื่อเป็นการยืนยันให้มั่นใจว่าการเดินทางไปท่องเที่ยวหลายๆวันกับกล้องRicoh GR III ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือหากไม่มั่นใจว่าเลนส์28mm ช่วงเดียวจะเอาอยู่ไหม วันนี้เรามีเสียงยืนยันอีกหนึ่งเสียง ที่มาพร้อมกับภาพผลงานอันสวยงามน่าประทับใจ…(อยากแพ็คกระเป๋าตามไปเดี๋ยวนี้เลย)

คุณโจ้ ศุภสิธ ศรีสวัสดิ์ศักดิ์ ช่างภาพผู้มีใจรักในชีวิตOutdoor ตัดสินใจออกเดินทางรอบนี้ไปกับกล้องตัวเล็กเพียงตัวเดียว สิ่งที่เห็นผลแบบทันตาเห็น คือ ลดน้ำหนักในกระเป๋าไปได้เยอะ…ให้ความรู้สึกสบายตัวมากทีเดียว เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะการเดินทางที่ต้องพกกล้องถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ไปนั้น โอกาสจะตัดใจพกเลนส์แค่ช่วงเดียวไปทำได้ยาก มันต้องเผื่อพวกเลนส์ไวด์ เลนส์เทเลโฟโต้ ไปไว้ในกระเป๋าให้อุ่นใจ จะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้ว่าไปอีกเรื่อง ไหนจะมีขาตั้งกล้องขนาดพอเหมาะที่ต้องรับน้ำหนักอุปกรณ์ให้ได้อีก

การเดินทางครั้งนี้จะแวะพักในหลายจังหวัด จุดหมายไกลสุดก็จะเป็นที่จังหวัดเชียงรายโน้น ล้อหมุน…พร้อมกับหลายชีวิตบนรถก่อนวันเค้าท์ดาวน์ระหว่างทางก็มีแวะพักเข้าปั๊ม แวะร้านค้าเพื่อตุนเสบียงก่อนเข้าที่พัก ซึ่งเห็นอะไรน่าสนใจก็เก็บภาพเอาไว้เตือนความทรงจำไปเรื่อย เดินไปไหนก็หยิบกล้องออกมาSnapอย่างสบายตัวคนรอบๆก็ไม่ได้มาสนใจเราที่ถือกล้องตัวเล็ก

 

บรรยากาศทะเลหมอกยามเช้า ณ ภูลังกา

 

สีสันในปั๊มระหว่างทาง

 

บรรยากาศยามเย็นของร้านค้าริมทางไปภูลังกา

 

แสงเช้าที่แสนอบอุ่น ณ ที่พักภูลังกา

 

วนอุทยานภูลังกา – เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาสันปันน้ำกั้นระหว่างไทย-ลาว ของอำเภอปง จังหวัดพะเยา จะมีลักษณะเป็นเขาสูงชัน มียอดดอยที่สลับซับซ้อน บริเวณยอดดอยภูลังกา สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา และด้วยความที่อยู่สูงจากน้ำทะเลกว่า 1,720 เมตร จึงว่ากันว่าที่นี่มองเห็นทะเลหมอกได้สวยงามที่สุด วันที่ไปคุณโจ้เข้าพักที่ภูลังกา เลอ บาโคนี่ เพื่อนๆที่เห็นมุมสวยๆแล้วอยากตามไปก็ปักหมุดเอาได้เลยนะ สายเดินป่า…ต้องหลงรักจนถอดตัวไม่ขึ้นแน่ๆ แต่ก่อนอื่นต้องลุกจากที่นอนมาชมทะเลหมอกและถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วยล่ะ! ก่อนจะไปต่อคุณโจ้ก็เก็บภาพความประทับใจของแสงเช้าด้วยภาพวิวหลักล้าน และมิตรภาพของการดื่มด่ำบรรยากาศยามเช้าของนักเดินทาง

 

พระธาตุวัดพระนั่งดิน จ. พะเยา

 

เงาสะท้อนพระธาตุวัดพระนั่งดิน จ. พะเยา

 

วัดพระนั่งดิน – เป็นหนึ่งในUnseenของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยาพระประธานของวัดนี้จะไม่ได้ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี เนื่องจากมีเรื่องเล่าว่า ชาวบ้านพยายามช่วยกันยกแต่ยกเท่าไรก็ไม่สามารถยกขึ้นได้ จึงเรียกสืบต่อกันมาว่า “พระนั่งดิน” มีตำนานเล่าขานถึงที่มาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลว่าเป็นรูปเหมือนของพระพุทธเจ้า สันนิษฐานว่าพระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ อายุไม่น้อยกว่า 2500 ปี บริเวณรอบวัดมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม อย่างองค์พระธาตุพระนั่งดิน มีแปดเหลี่ยม มีองค์พระพระพุทธรูปพระเจ้านั่งดินจำลอง เนื้อทองเหลือง เหลี่ยมละ 3 องค์ มี 3 ชั้น รวมมี 24 องค์ และมีซุ้มประตูโขง 8 ด้าน ประดับด้วยแก้วสีต่างๆ สร้างขึ้นเมื่อปี 2558 ซึ่งคุณโจ้ก็ถ่ายทอดความงดงามมาให้พวกเราได้ชมกันด้วย

 

ทัศนียภาพระหว่างทางไปภูชี้ฟ้า

 

สายหมอกไหล บันทึกจากทางไปภูชี้ฟ้า

 

ดอกพญาเสือโคร่งทางขึ้นภูชี้ฟ้า

 

“ระหว่างทาง” อาจสำคัญกว่า “ปลายทาง”

เคยได้ยินคำนี้กันบ้างไหม เพราะสิ่งที่ได้พบและสัมผัสตลอดสองข้างทางไปภูชี้ฟ้า ทำให้ทุกชีวิตในรถมีความสุขมาก การได้เห็นสายหมอกที่ไหลเอื่อยๆเลียดยอดเขามันช่างสุขใจจริงๆ ภาพที่เห็นมันทำให้อดนึกตามไปแบบนั้นไม่ได้ เวลาผ่านไม่นานเท่าไรไม่รู้ รู้แต่ว่าเวลานี้เรากำลังมีความสุขร่วมกัน

 

บรรยากาศ ณ ภูชี้ฟ้า

 

เงาคนบนภูชี้ฟ้า

 

ที่พักบนภูชี้ฟ้า

 

ภูชี้ฟ้า – อุทยานแห่งชาติตั้งอยู่ที่ อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมานาน เพราะภูชี้ฟ้าเป็นจุดที่อยู่สูงที่สุดของเทือกเขาดอยผาหม่นอยู่ติดระหว่าง พรมแดนไทย-ลาว ลักษณะหน้าผามีปลายแหลมชี้ไปบนฟ้าทางฝัางประเทศลาว นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ จุดชมวิวจะอยู่สูงจากน้ำทะเลประมาณ 1,200-1,628 เมตร ทะเลหมอกจะปกคลุมหุบเขาด้านล่างจนคล้ายกับภาพวาด ช่วงเดือนธันวาคมจนถึงเดือนมกราคม เส้นทางขึ้นภูจะบานสะพรั่งไปด้วยดอกซากุระเมืองไทย หรือพญาเสือโคร่ง สีชมพูเต็มไปหมด เมื่อพระอาทิตย์เริ่มขึ้นสูง แดดเริ่มแรงภาพแนวซิลลูเอต(Silhouette) ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเก็บเพื่อนๆในทริปด้วยเทคนิคนี้ ซึ่งกล้องGR III ทำหน้าที่นี้ได้อย่างสมบูรณ์

 

แสงสวยๆ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน

 

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน – เดิมเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครน่าน เรียกว่า หอคำ ปัจจุบันเป็นที่จัดแสดงศิลปะ โบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ และแสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชนพื้นเมืองทางภาคเหนือ ตลอดจนชนเผ่าต่างๆ ตัวอาคารแบบยุโรปมีการผสมผสานกับสถาปัตยกรรมท้องถิ่นเมืองน่าน ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งเป็น 2 ชั้น สิ่งของสำคัญชิ้นหนึ่งได้แก่ “งาช้างดำ” วัตถุมงคลคู่บ้านคู่เมือง สมบัติเจ้าผู้ครองนครสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน เป็นงาช้างข้างซ้าย มีความยาว 94 เซนติเมตร รอบงาส่วนที่ใหญ่สุดวัดได้ 47 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 18 กิโลกรัม วางอยู่บนครุฑที่ทำจากไม้สักทั้งท่อน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2469 ใครมาที่นี่ก็จะถ่ายภาพที่ซุ้มต้นลีลาวดี แต่คุณโจ้ มองความงามของแสงเงาที่ทอดไปยังตัวอาคารมาเล่าเรื่องมากกว่า

 

แสงเงาในวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร

 

วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร – เป็นวัดที่อยู่ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน มีชื่อดั้งเดิมว่า วัดหลวงกลางเวียง สร้างขึ้นโดยพญาภูเข่ง เจ้าผู้ครองนครน่านเมื่อกว่า 600 ปีมาแล้ว มีวิหารขนาดใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทย ประดิษฐานพรประธานองค์ใหญ่ ด้านหน้ามีสิงห์คู่ตั้งอยู่เชิงบันได ภายในวัดยังมีเจดีย์ช้างค้ำ เป็นสถาปัตยกรรมทรงลังกา มีรูปปั้นช้างครึ่งตัวประดับโดยรอบ ลักษณะเหมือนฐานรองรับด้านละ 6 เชือก รวมทั้งหมด 24 เชือก มีความงามเป็นเอกลักษณ์(ได้รับอิทธิพลจากสุโขทัย)

 

เจดีย์วัดพระธาตุช้างค้ำ จ.น่าน ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน

 

เจ้าแม่กวนอิมวัดภูเก็ต จ. น่าน

 

วัดภูเก็ต – ตั้งอยู่ที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน มาไขข้อสงสัยชื่อวัดกันก่อนว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เนื่องจากวัดนี้ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเก็ต และตัววัดก็ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา ซึ่งภาคเหนือจะเรียกว่าดอย หรือภู จึงเป็นที่มาของชื่อวัดแห่งนี้ ความงามที่มาเยือนก็เป็นเพราะรอบๆเป็นทุ่งนากว้างใหญ่ มองได้ไกลถึงวนอุทยานดอยภูคาทีเดียว ที่วัดจะมีอุโบสถทรงล้านนาประยุกต์ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังสามมิติ ประดิษฐานหลวงพ่อแสนปัว หรือ หลวงพ่อพุทธเมตตา นอกจากนี้ยังมีโรงแรมธรรมะแห่งแรกของประเทศไทย ชื่อว่า ภูเก็ต สนธยา เทมเพิลสเตย์ ที่สร้างไว้สำหรับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม หรือนักท่องเที่ยวที่สนใจ

อ่านกันเพลิดเพลินจนถึงช่วงท้ายกันแล้ว กับทริปการเดินทางแอ่วเหนือชมหมอก ด้วยกล้องตัวเล็ก ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้คุณโจ้นั้นยิ้ม และมีความสุขทุกครั้งที่เปิดภาพดู สิ่งนี้น่าจะเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดีว่า คุณโจ้ ศุภสิธ ศรีสวัสดิ์ศักดิ์ รู้สึกอย่างไรกับกล้อง GR ที่พกไปด้วยตลอดทริปนี้…แล้วเพื่อนๆชาว Grist ล่ะ พร้อมจะนำกล้องGR ของคุณออกไปฉายเดี่ยวกันไหม