GR พาเที่ยว… ปู้น ปู้น … ขึ้นรถไฟลอยน้ำ by Supasit Srisawathsak
one day trip เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ with Ricoh
ช่วงสถานการณ์โควิดแบบนี้ ทำให้การออกไปท่องเที่ยวค่อนข้างซบเซา จะไปไหนไกลก็อาจสุ่มเสี่ยง การท่องเที่ยวใกล้ๆ ดูจะเป็นทางออกที่ดีกว่า ได้เพลิดเพลิน ได้กระจายรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชน และผู้คนที่เกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย ก็ยังได้รอยยิ้มกันกลับมา
ขบวนรถไฟท่องเที่ยวสายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นการเที่ยวแบบวันเดียว ออกเที่ยวเช้า กลับเย็น เราอาจจะจองตั๋วไปเที่ยวเองก็ได้ หรือจะหาจองกับ ผู้จัดทริป ก็สะดวกดี เพราะอาหารการกินครบครัน โปรแกรมพาเที่ยวก็ครบถ้วน แถมพนักงานของบริษัท ยังทำความสะอาจฆ่าเชื้อโรคในตู้ขนวบที่เรานั่งไปด้วย ดูแลดีจริงๆ ประทับใจมาก เที่ยวแบบสั้นๆ พกกล้องเล็กๆ สบายๆกระเป๋า ไปสองตัว
ทั้ง Ricoh GRIIIx กับ Ricoh GRIII ตัวหนึ่งมีเลนส์ มุมกว้างเทียบเท่า 28 มม( Ricoh GRIII ) อีกตัวก็มีระยะเทียบเท่า 40 มม(Ricoh GRIIIx) สองตัวรวมนำ้หนักแค่ 500 กรัม เบากว่ากล้วยฉาบที่ซื้อกลับบ้านเสียอีก ใครใช้เป้เล็กๆ สำหรับการเดินทางแบบนี้ ผมแนะนำ หากระเป๋าเล็กๆ ที่ติดได้กับสายสะพาย มันช่วยให้เราเก็บและหยิบกล้องได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากมายครับ
รถไฟออกจากกรุงเทพแต่เช้ามืด วิ่งตรงไปเรื่อยมุ่งหน้าสู่ สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แวะจอดรับผู้โดยสารที่จะไปเที่ยวเขื่อนกัน บ้างไม่กี่สถานี้ นั่งดูวิว กินขนม พูดคุยกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน ยังไม่ทันหมดเรื่องคุย รถไปก็มาถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สะหละ ไวมาก รถไฟจะจอดบนสถานีลอยน้ำนี้ ราว 20 นาที ให้เราลงไปสูดอากาศเย็นๆ และถ่ายรูปได้ ย้อนความไปในอดีต จุดที่รถไฟจอดกลางน้ำนี้ เมื่อก่อน ก่อนที่จะมีเขื่อน ก่อนที่น้ำจะท่วมถึง มันมีสถานีและทางรถไฟอยู่ใต้น้ำ พอมีเขื่อน น้ำก็ท่วมมัน การรถไฟเลยได้สร้างทางรถไฟขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้สัญจรได้ แบบในอดีต
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นหนึ่งในโครงการแก้มลิงของในหลวงพ่อหลวงร.๙ อันเป็นที่รักยิ่ง การสร้างเเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หรือการสร้างเขื่อนอะไรก็แล้วแต่ แน่นอน ย่อมมีบางพื้นที่ ที่จะต้องโดนน้ำท่วมขัง ต้องมีการโยกย้ายออกจากพื้นที่นั้นๆ แต่ด้วยพระราชดำริที่ก่อประโยชน์แกพสกนิกรชาวไทย ทำให้ชาวบ้านแถวนั้นเข้าใจและเคารพรักท่าน ต่างพร้อมใจยกที่ทางและย้ายออกได้ความยินยอมพร้อมใจอย่างดีมีความสุข เพื่อประโยชน์สุขของทุกๆคน
ด้วยพระบารมีของท่าน เลยทำให้เกิดเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ นั่นเอง ชมวิวน้ำเหนือเขื่อนแล้ว ก็แวะเที่ยวทุ่งทานตะวันสักหน่อย ก่อนที่มันจะโรยราไป สวนทุ่งทานตะวันมีอยู่หลายที่รอบจังหวัดลพบุรี เหลืองเต็มตาดูน่าดูชม แวะอุดหนุนตลาดชุมชนต่างๆ กระจายรายได้สร้างเศรษฐกิจให้ไหลลื่นกันบ้างในยามนี้ กล้องเล็กๆของผม ก็บันทึกภาพ เรื่องราวไปเรื่อยๆ ให้เรามีความสุขในการบันทึกความประทับใจ เพื่อให้เราได้เห็นและคิดถึงได้อยู่เสมอ บ่าย3 กว่าๆ รถไฟก็นำเรากลับเข้ากรุงเทพสิ้นสุดการท่องเที่ยวสั้นๆ เพลินๆนี้ อย่างสมบูรณ์และปลอดภัย
หากใครสนใจไปเที่ยว ก็ค้นหาดูได้ง่ายดาย มีโปรแกรมมากมายในgoogle เพื่อนผู้ช่วยเหลือเราในทุกวันนี้
– Supasit Srisawathsak –