GR พาเที่ยว… UTHAI THANI…ทริปสั้นๆที่แสนตราตรึงกับ GRIII และGR IIIx
“อุทัยธานี” เมืองพระชนกจักรี ปลาแรดรสดี ประเพณีเทโว ส้มโอบ้านน้ำตก มรดกโลกห้วยขาแข้ง แหล่งต้นน้ำสะแกกรัง ตลาดนัดดังโคกระบือ
เอาหละ ช่วงนี้จะไปเที่ยวไหนใกล้ไกล ก็ต้องระมัดระวัง รักษาสุขภาพกันให้มากๆ จริงอยู่ว่าเชื้อคราวนี้ อาจไม่ส่งผลรุนแรงต่อสุขภาพมากนัก แต่มันก็แพร่กระจายไปได้รวดเร็วมาก ยังไงๆก็ดูแลกันให้ดีนะครับทุกท่านครับ
ว่างเว้นจาการทำงานระยะสั้นๆ ผมก็ได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวเยี่ยมเยือนจังหวัดอุทัยธานีกัน ซึ่งตัวผมเองก็อยากไปที่นี่มานานหนักหนา ทั้งที่มีเพื่อนสนิทก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่ไม่มีโอกาสอันอำนวยสักที จนมาถึงคราวนี้ ถึงสมหวังสักที อุทัยธานีนั้นไม่ไกลจากกรุงเทพเลย ขับรถไปไม่เกินสองชั่วโมงครึ่งสบายๆ มีที่ท่องเที่ยวมากมาย น่าสนใจ น่าชม น่าถ่ายภาพยิ่งนัก
Ricoh GRIIIx และ Ricoh GRIII กล้องเล็กๆทั้งสองตัวที่ผมต้องมีติดตัวในกระเป๋าไปด้วยเสมอ เบา กระทัดรัด และครบฟังค์ชั่นตอบโจทย์ความต้องการของช่างภาพอย่างแท้จริง สิ่งแรกที่ไม่ควรพลาดของอุทัย คือต้นไม้ยักษ์แห่งชุมชนบ้านสะนำ อำเภอบ้านไร่ ที่ใหญ่โต อลังการ จนต้องใช้ 14 คนถึงจะโอบล้อมมันไว้ได้รอบ เพื่อให้สามารถเทียบขนาดของต้นไม้ได้ ทริคเล็กๆ ก็คือ เราก็แค่นำตัวแบบไปถ่ายคู่กัน เราก็จะเห็นความใหญ่โตของมันได้นะครับ ผมเลือกใช้ Ricoh GRIII ที่มีเลนส์มุมกว้างราวๆ 28 มม เพื่อบันทึกภาพให้เน้นให้เห็นขนาดความใหญ่โตของเจ้าต้นไม้นี้
ทั้งภาพสีและภาพขาวดำ ผมก็ใช้การปรับแต่งสีที่มีอยู่ในกล้องเลย เรียกว่าจบหลังกล้องกันเลยทีเดียว เล็กพริกขี้หนูจริงๆครับ
ว่ากันด้วยเรื่องที่พัก ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสมาพักให้โรงเรียน เอ….. จริงครับ ที่นี่มันเคยเป็นโรงเรียนอุทัยวิทยาลัยมาก่อนจริงๆ ก่อนที่จะถูกปรับปรุงใหม่ให้เป็นโรงแรมที่พักสุดฮิปในชื่อ อุทัย เฮอริเทจ โรงแรมที่เคยเป็นโรงเรียนมาก่อนนั้น มันเคยเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดัง อายุเกือบร้อยปี ก่อนทีจะปิดตัวลงและถูกทิ้งร้างมานาน ก่อนที่เจ้าของใหม่ ที่มองเห็นคุณค่าของความงามของสถาปัตยกรรมและศิปละวัฒนธรรมดังเดิม เลยจัดการบรูณะ ปรับปรุงให้กลายมาเป็นโรงแรมเท่ สวยงามและร่วมสมัย ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผมเองก็เพลิดเพลินถ่ายภาพและปรับสีจากกล้องนี่แหละ ให้มีความสวยงามและได้สีวินเทจไปตามท้องเรื่องของโรงแรมแห่งนี้
ทริคเล็กๆ ของการถ่ายภาพแสงน้อยๆ ในโรงแรม ผมตั้ง ISO500 รูรับแสงที่กว้างสุด 2.8 ถ่ายโหมด AV กล้องก็จะคำนวณ speed shutterให้ เท่าที่ผมถ่าย ก็อยู่ราวๆ 1/15-1/8 ผมว่าเราถือถ่ายกันได้ครับ เพราะกันสั่นของกล้อง Ricoh GR นั้น ประสิทธภาพสูงอยู่แล้ว ทำให้ภาพออกมาคมชัดเป๊ะเลยทีเดียว
สำหรับภาพ Twilight นั้น ผมเอากล้องวางบนเก้าอี้ และหนุนกล้องที่เลนส์ด้วยหินก้อนเล็ก พอที่จะวางเพื่อให้ได้มุมภาพที่ผมต้องการ ปรับ iso 200 f-stop 8 speed 10 วินาที แค่นั้นเอง เราก็ได้ภาพที่สวยงามแล้วครับ อ่อ….ลืมบอกไปนิด ผมใช้ Self-Timer หรือหน่วงเวลาสักนิด เพื่อให้กล้องไม่สั่นหลังจากที่ให้นิ้วกดปุ่มชัตเตอร์ครับ
ใครไปอุทัย อย่าให้พลาดการไปพักหรือเยี่ยมเยือนที่โรงแรมแห่งนี้นะครับ รอบๆโรงแรมซึ่งไม่ไกลจากตลาดเช้าและตลาดเย็น มีของกินอร่อยๆเพียบๆ รอคุณอยู่ที่นั่นครับ ช่วงเช้าๆ สิ่งที่ต้องไป และไม่ควรพลาดคือ ตลาดยามเช้าของชุมชนแม่น้ำสะแกกรัง ตลาดเช้าที่นี่ คึกคักเต็มได้ด้วยชีวิตชีวา ทั้งของสด ของแห้ง ชุมชน วัฒนธรรมท้อถิ่น รวมถึง พระอีกหลายรูปที่เดินรับบิณฑบาตรรอบๆบริเวณตลาด เรียกได้ว่าอิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งท้องเลยก็ว่าได้ ตลาดริมแม่น้ำนี้ช่างมีความอุดมสมบูรณ์ได้ด้วยพันธ์ปลานานาชนิด ใครสายกินปลา ของใหม่สดหาได้ที่นี้ทุกวันครับ ผมเองก็กินปลานะ แต่เช้านั้นตั้งใจไปปล่อยปลาหน้าเขียงครับ ขณะที่กำลังถ่ายรูปและเลือกปลาอยู่ ก็ได้ยินเสียงแม่ค้าทักทาย “ปลาสดๆไหมคะ” แม่ค้าถามผมต่อ “ซื้อไปปล่อยตรงท่าน้ำก็ได้เลยนะคะ หรือ ถ้าไม่ปล่อยเดี๋ยวแม่ค้าทอดให้สดเลยนะคะ”
ผมนี่ชะงักงันไปครู่หนึ่ง พลางยิ้มในใจและคิดว่า ปลาเอ๋ย ไม่ว่าแกรอดเพราะเราปล่อย ไม่ก็โดนทอดเพราะเราไม่ปล่อย ยังไงแม่ค้าก็วินๆ ได้เงินอยู่ดี ไปเถอะนะ เราจะพาแกไปปล่อยให้ปลอดภัยก็แล้วกัน เอาหน่า วิถึชีวิตก็งี้แหละ คนอยู่ได้ ปลาอยู่ได้ ช่วยๆกันไป
วิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ มีอัตลักษณ์มากมาย นอกจากผู้คนจะอาศัยอยู่บนฝั่งแม่น้ำแล้ว ยังมีอีกหลายครอบครัวที่อาศัยอยู่บนแพ กลางแม่น้ำอีกด้วย ที่นี่คงจะเหลือเป็นที่เดียวในประเทศที่ยังมีแพ ที่มีบ้านเลขที่แบบนี้ด้วยครับ คนบนแพก็อาศัยกันอยู่มาหลายชั่วอายุคนเลยทีเดียว หลายบ้านก็จับปลาขาย เพาะปลาขายขาย บางบ้านก็รับปลามาอบย่างรมควันขาย บางบ้านก็ปลูกเตยหอมขาย ดูสวยงามเพลินตามากครับ วัฒนธรรมของไทยแท้ๆ คงหนีไม่พ้นคนต้องสายบุญ ดังนั้นวัดในจังหวัดอุทัยนั้น จึงมีมากมายหลายแห่ง วัดดังที่คนรู้จักดี คงไม่หนี วัดท่าซุง ที่มีความวิจิตรงดงาม ประดับประดาสวยงามราวอยู่บนสวรรค์ ฟริ้งๆมากมาย แวะไปทำบุญเยี่ยมชมกันนะครับ
ทริปสั้นๆนี้ ผมใช้กล้อง Ricoh GRIIIx และ Ricoh GRIII เป็นเครื่องมือบันทึกภาพคู่กาย นอกจากจะถ่ายภาพได้ตามจังหวะหรือ moment ที่ผมต้องการแล้วนั้น ระบบการปรับแต่งรูปในกล้องก็ตอบโจทย์ผมได้มากตามความต้องการของผมด้วยเช่นกัน ใครที่ชอบถ่ายเป็น RAW file แบบที่ผมชื่นชอบด้วยแล้ว RAW converter ใน Ricoh GR ปรับแต่ง (manipulate) ภาพในแบบที่คุณต้องการได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นโทนขาวดำ มันๆ หรือสีจัดๆจ้านๆ รวมไปถึงสีวินเทจๆ รับรอง ไม่ผิดหวังครับ Ricoh GR กล้องที่ต้องมี
– ศุภสิธ ศรีสวัสดิ์ศักดิ์ –