ภูเขารอคโคะ Mount Rokko
เมื่อได้ดูรูปถ่ายแล้วความทรงจำต่างๆ ก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ผ่านภาพที่เคยบันทึกไว้ เกือบ 10 ปีแล้วที่เราออกเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นเอง และทำให้เราค้นพบความต้องการ ความชอบ ความเป็นตัวตนของเราได้ดีขึ้น และนั่นจะทำให้เราวางแผนการเดินทางที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด
ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ได้ค้นพบมา ก็ คือ เราเป็นคนชอบถ่ายรูปที่เสมือนบันทึกการเดินทางด้วยภาพ เพราะภาพถ่ายทำให้เราได้รำลึกถึงช่วงเวลา และประสบการณ์ต่างๆได้ดี และการเข้าใจตัวเองนี้ทำให้เลือกกล้อง Ricoh GR เป็นกล้องใช้งานประจำตลอด 10 ปี กล้องตัวนี้ได้ทำให้เรามีความสุขในการออกเดินทาง และทุกครั้งที่กลับมาเมื่อได้เห็นภาพถ่ายต่างๆ ก็ยิ่งเติมเต็มความสุขจากการไปเที่ยวได้อีกอย่างยอดเยี่ยม
ส่วนมากเราเลือกที่จะไปญี่ปุ่นในช่วงหน้าหนาว เพราะชอบอากาศเย็น และนักท่องเที่ยวไม่มาก ทำให้เรามีโอกาสที่จะเดินทางแบบสบายๆ และไม่เบียดเสียดนัก ครั้งหนึ่งเราเลือกที่จะไปภูเขารอคโคะ(Mount Rokko) ที่เมืองโกเบ(Kobe) ในจังหวัดเฮียวโงะ(Hyogo) ซึ่งโกเบไม่ไกลจากโอซาก้าเลย จำได้ว่าตอนนั้นเราอยู่ในช่วงที่เพิ่งเริ่มเที่ยวเองก็ยังมีอะไรหลายอย่างที่เรียกว่าเป็นมือใหม่มาก แม้ประสบการณ์น้อย และยังมีความกล้าๆ กลัวๆ กับการหลงทาง แต่ก็อยากออกผจญภัย !
จากโอซาก้านั่งรถไฟมาที่โกเบแล้วต่อรถเมล์ไปสถานีบริการเคเบิ้ลคาร์์ขึ้นไปยังภูเขารอคโคะ
มาถึงสถานีบริการเคเบิ้ลคาร์ที่จะขึ้นไปยังภูเขารอคโคะ และขากลับก็กลับลงมาทางนี้เหมือนเดิม
คนน้อยมาจนเหมือนเหมาขบวนรถเลย
และเมื่อขึ้นมาถึง การเดินทางบนนี้อาศัยรถเมล์ที่ให้บริการรับส่งตามจุดแวะต่างๆ ซึ่งมีตารางเวลาในการออกรถแต่ละรอบ และเราต้องรออยู่เป็นชั่วโมงสำหรับรอบถัดไป สิ่งที่ทำ คือ รอ และระหว่างรอก็ถ่ายรูป
เราสามารถเลือกจุดแวะที่ต้องการได้ ซึ่งจะมีแผนที่แจกให้ ก่อนอื่นกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราจึงหาอาหารอุ่นๆ สำหรับอากาศเย็นๆ บนนี้กันก่อน ร้านอาหารมีอยู่หลายร้านตามจุดต่างๆ แต่หน้าหนาวแบบนี้จะมีร้านอาหารที่เปิดบริการไม่มาก เราก็เลยเลือกจากเมนูอาหารที่ดูน่าสนใจ และน่าอร่อย ร้านที่เราเลือกอยู่ในอาคารที่ในนั้นจะมีร้านค้าให้เดิน และซื้อสินค้าได้
หน้าตาอาหารดูดีทีเดียว และรสชาติก็อร่อยใช่ได้เป็นอาหารสไตล์ยุโรป
บนภูเขารอคโคะมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย แต่ในหน้าหนาวที่ยังไม่ใช่ช่วงเทศกาลวันหยุดที่นี่ เงียบมาก ! แต่พอได้มานั่งดูรูปแล้วกลับรู้สึกว่าชอบบรรยากาศ และช่วงเวลาที่ดูเงียบเหงานั้น แต่ว่าท้องฟ้า และสีสันต่าง ๆที่ได้ถ่ายรูปมาชวนให้คิดว่า จริงๆ มันดีนะที่ไม่ค่อยมีผู้คนมากมาย เพราะทำให้เรามีช่วงเวลาที่ได้เดินชมวิว และดูสิ่งต่างๆที่ต้องการได้อย่างสบายๆ จากนี้ไปก็จะขอเล่าเรื่องด้วยภาพต่างๆ จากกล้อง Ricoh GR
อากาศหน้าหนาวบางครั้งก็มีเมฆมาปกคลุม บรรยากาศเหมือนฝนจะตก และถ้ามีฝนตกลงมาจริงๆ
ก็มักเป็นละอองฝนที่ทำให้อากาศหนาวมากขึ้น
ดวงอาทิตย์ออกมาทักทายท่ามกลางมวลเมฆที่ปกคลุม หันขึ้นไปมองแสงจ้าบนฟ้าที่ลอดลงมา
เมื่อกลับมาดู ในรูปได้ประกายสีรุ้งติดมาด้วย
หลังจากเดินเล่นถ่ายรูปจนพอใจแล้ว และหน้าหนาวฟ้ามืดเร็วมาก เราก็เลยกลับลงมา และเดินเที่ยวต่อในตัวเมืองโกเบ
โกเบฮาร์เบอร์แลนด Kobe Harborland
ในที่สุดเราเลือกมาที่ “ โกเบฮาร์เบอร์แลนด์ ” นอกจากที่นี่จะมีร้านอาหาร และร้านขนมขึ้นชื่อมากมายแล้ว การได้มายืนชมบรรยกาศวิวแสงไฟยามค่ำคืนของโกเบเป็นหนึ่งในไฮไลน์ที่ไม่ควรพลาด และกล้องตัวเล็กอย่าง Ricoh GR ก็ยังเก็บบรรยกาศแสงสีได้สวยถูกใจอีกด้วย
One day trip จบไปแล้ว แต่ความทรงจำยังคงอยู่เสมอ และยิ่งมีภาพที่เราย้อนกลับมาดูได้ทุกครั้ง ก็เป็นสิ่งที่เติมเต็มความสุขได้มาก โดยเฉพาะยามนี้ Covid-19 ที่เรายังไม่สามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้ดั่งใจ การดูรูปก็พอบรรเทาความคิดถึงการท่องเที่ยวได้ หรือจะทำให้รู้สึกอยากไปมากขึ้นก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราเข้าใกล้ความรู้สึกที่มีความสุข และความสนุกมากขึ้นอีกในการเดินทางต่างๆ ที่ผ่านมา
Grist Snap Thailand official Group EEPblog
https://www.facebook.com/groups/GRistSnap https://eepblog.com/
TAGS
Arima /Hyogo / Kobe / Kamameshi / GRist / RICOH / RICOH GR / GR