Chai Chan …คุณกฤษกร ชาญดนตรีกิจ (ชัย)

จากความทรงจำในอดีตที่เคยกดกล้องฟิล์มของคุณพ่อที่ลืมทิ้งไว้บนรถจนหมดม้วน ทำให้มีโอกาสที่จะได้เริ่มต้นเรียนรู้การถ่ายภาพโดยมีคุณพ่อเป็นครูคนแรก ต่อเนื่องมาจนถึงวัยทำงานที่แม้จะไม่ได้มีการถ่ายภาพเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตอย่างจริงจัง แต่ด้วยรูปแบบของงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นวงการโฆษณา รวมถึงงานออกแบบ และศิลปะ ทำให้มีประสบการณ์ที่ต้องเกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพอยู่เสมอ

 

ราว 10 ปี มาแล้วนับจากการตัดสินใจเดินทางกลับมาจากต่างประเทศเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจของทางบ้าน และเป็นช่วงเวลาเดียวกับการมาถึงของสมาชิกใหม่ตัวน้อย (ซึ่งปัจจุบันเป็นหนุ่มน้อยแล้ว) ทำให้เริ่มกลับมาศึกษาการถ่ายภาพอย่างจริงจังอีกครั้ง และมันก็ต่อเนื่องจนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

“ไม่ลอง GR เหรอ?” เป็นประโยคคำถามสั้นๆ จากรุ่นพี่ท่านหนึ่งที่ชอบถ่ายภาพเช่นกัน และเป็นกูรูด้านกล้องที่หลายคนยอมรับ กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้มองหากล้อง GR มาใช้งานอย่างจริงจัง จนถึงปัจจุบันนี้นอกจากจะมีกล้อง GR รุ่นล่าสุด  (GR III และ GR IIIx) ใช้งานเป็นประจำแล้ว ก็ยังสนุกกับการสะสมกล้อง GR รุ่นที่ชอบหลากหลายรุ่นด้วย ซึ่งทั้งหมดยังเป็นกล้องที่อยู่ในสภาพดี และถูกนำออกมาใช้งานอยู่เสมอ

 

 

มันไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสเปก ไม่ใช่แค่เรื่องของประสิทธิภาพของกล้อง แต่มีทั้งเรื่องของเสน่ห์, การใช้งานที่ง่าย และเล็กกะทัดรัดของ GR ที่ทำให้สามารถพกมันไปได้ทุกที่ เป็นกล้องที่จะขอนิยามด้วยประโยคที่ตรงไปตรงมา และเป็นความจริงอย่างหนึ่งที่กล้องที่ดีควรจะเป็น คือ “กล้องที่อยู่ในทุกโมเมนต์” ซึ่งตรงนี้มันมาเติมเต็มอีกหนึ่งวลีประจำตัวด้วย นั่นก็คือ “แค่ได้ถ่ายภาพก็สุขใจ” – กล้อง GR เป็นจริง และตอบโจทย์ทั้งสองส่วนนี้ได้ดีมากๆ

 

 

 

ด้วยความที่ไม่ได้เป็นช่างภาพอาชีพ แต่เป็นนักธุรกิจ เป็นคุณพ่อ เป็นสามี และเป็นสมาชิกของครอบครัวด้วย การเก็บบันทึกภาพต่างๆ โดยส่วนใหญ่จึงเสมือนการบันทึกช่วงเวลาสำคัญในแต่ละช่วงชีวิตที่มีทั้งการเติบโต มีจุดเปลี่ยน มีการเดินทาง มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น กล้อง GR ที่ติดตัวใช้งานอยู่เสมอจึงมีหน้าที่เสมือน Compact Time Machine ที่ไม่เพียงแค่บันทึกภาพสิ่งต่างๆ เอาไว้เท่านั้น แต่เมื่อได้ย้อนกลับมาดูภาพมันมีความทรงจำ มีเรื่องราว และความสุขให้นึกถึงอยู่เสมอ

 

 

 

บางครั้งความประทับในโมเมนต์ที่พบก็เกิดขึ้นอย่างบังเอิญเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นครั้งหนึ่งตื่นเช้าขึ้นมาในเรียวกังที่ญี่ปุ่น แสงแรกที่เห็นตกกระทบเข้ามาในห้องตอนนั้นสวยมาก เห็นแล้วชอบมากจึงรีบหยิบกล้อง GR ที่วางเอาไว้ใกล้ๆ หัวนอนมาบันทึกภาพเก็บเอาไว้ได้ในทันที หรือบางครั้งภาพที่พักสวยๆ ที่เรามีโอกาสไป ก็ถ่ายภาพเก็บไว้โดยที่จริงๆ ก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เมื่อมาบรรจบกับสภาพแสงที่ดี และคุณภาพของกล้อง GR ก็เคยได้ภาพที่มีเพื่อนๆ ออกปากชมว่าเหมือนภาพ 3D ที่เรนเดอร์ออกมาเพื่อใช้ในโบรชัวร์ของทางโรงแรมเลย

 

 

ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องความประทับใจเกี่ยวแสงแล้ว ก็เลยอยากจะเน้นว่ากล้อง GR เป็นกล้องที่ถ่ายภาพขาวดำได้สวยมาก มีโทนให้เลือกใช้หลายแบบ และสามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ได้ง่าย คนที่ชอบถ่ายภาพขาวดำควรได้ทำความรู้จัก และลองใช้ GR ดูสักครั้ง

 

 

ด้วยความชอบในการถ่ายภาพที่หลากหลายเลยทำให้สนใจ และทดลองถ่ายภาพทุกๆ แนว การที่มีกล้องที่พกไปได้ตลอด และเป็นกล้องที่ยืดหยุ่นพอที่จะใช้งานได้ทุกรูปแบบ เลยทำให้มีโอกาสถ่ายภาพได้ตลอดเวลา แต่ถ้าถามถึงสไตล์ส่วนตัว หรือรูปแบบในการถ่ายภาพที่ชอบมากที่สุด ก็คงจะแนวสตรีทฯ ที่เน้นการบันทึกแบบ Decisive Moment คือ บันทึกช่วงเวลา หรือจังหวะน่าสนใจที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งกล้อง GR ก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีเสมอ

 

 

แน่นอนว่าความชอบในการถ่ายภาพนั้นนำเข้าสู่ความชอบในการติดตามผลงานของศิลปิน และช่างภาพด้วย ช่างภาพที่ยกให้เป็นที่ 1 ในใจก็คือ Fan Ho ถึงขนาดที่ว่าอยากจะสามารถถ่ายภาพได้อย่างเขาบ้าง แต่ด้วยความที่เป็นคนที่สนใจงานศิลปะอยู่แล้ว ช่างภาพอื่นๆ ที่ชอบ และศึกษาผลงานก็มีอีกหลายคน เช่น Henri Cartier-Bresson, Vivian Maier, Rene Burri, Bert Stern, Dennis Stock รวมถึงช่างภาพไทยอย่างเช่นคุณเจษฎา อินเอก ซึ่งก็ใช้กล้อง GR เช่นเดียวกัน

 

ผมจะพูดอยู่เสมอว่าไม่ใช่คนที่ถ่ายภาพเก่งอะไร แค่ชอบ, สนุกที่ได้ศึกษา และมีความสุขที่ได้ถ่ายภาพ ได้เก็บบันทึกทุกโมเมนต์สำคัญที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งนั่นทำให้ต้องให้ความสำคัญในการเลือกกล้องถ่ายภาพที่ใช่ กล้องที่จะอยู่กับคุณในทุกโมเมนต์ได้จริงๆ แบบ GR

 

—————————-

คอลัมน์ GR LOVER ขอขอบคุณ คุณกฤษกร ชาญดนตรีกิจ (ชัย)
กับเรื่องราวดีๆในโลกของการถ่ายภาพที่จะส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนๆ ชาว Grist
ได้มีพลังสร้างสรรค์ผลงานต่อไป …ด้วยกล้อง Ricoh GR