
ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่กับจอภาพหลากหลายชนิดแทบจะตลอดเวลา สำหรับนักถ่ายภาพนั้นก็ยิ่งเรียกได้ว่าทั้งจอของกล้องและของ คอมพิวเตอร์ก็คงจะเป็นอะไรในชีวิตประจำวันกันเลยทีเดียว เมื่อถ่ายภาพมาแล้ว ก็คงไม่พ้นที่จะต้องนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับขั้นตอนต่อไป บางท่านก็อาจจะใช้เพียงเพื่อเก็บข้อมูล หรือเปิดดู ภาพ, โพสต์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์คเท่านั้น แต่ก็มีไม่น้อยที่ต้องตกแต่งภาพ ให้สวยงามยิ่งขึ้นเสียก่อน ตรงนี้เองที่ความสำคัญของ “จอคอมพิวเตอร์” จะมีบทบาทมาก ขึ้น มากเสียจนเรียกได้ว่าถ้าไม่มีความเข้าใจมากพอละก็ อนาคตความ เป็นช่างภาพจะไปไม่ถึงดวงดาวกันเลยทีเดียว…
ในงานจัดการภาพถ่ายนั้น เราแบ่งขั้นตอนแบบกว้างๆ ได้ สามขั้น ได้แก่ Input-Processed-Output ซึ่งกล้องถ่ายภาพนั้น จัดเป็นอุปกรณ์ในขั้นตอนของ Input โดยเป็นตัวนำเข้าข้อมูล ภาพถ่ายสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นจัดเป็นอุปกรณ์ในส่วนของการ Processed-จัดการไฟล์ภาพถ่ายก่อนที่จะ Output ออกไปยังอุปกรณ์ เพื่อแสดงผลอื่นๆ เช่น เครื่องปริ้นท์หรือจอภาพ…รวมไปถึงการ ส่งไฟล์งานไปยังโรงพิมพ์ในกรณีของงานสิ่งพิมพ์ด้วยทุกขั้นตอน ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญ ในที่นี้เราจะว่ากันที่ ขั้นตอน “Processed” ทางคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะลงมือทำสิ่งใด ก็ตามแต่ เราจะสั่งงานผ่านเม้าส์และคีย์บอร์ดโดยดูผลที่ “จอภาพ” แล้วก็ตกแต่งแก้ไขภาพไปตามที่สายตามองเห็น ดังนั้น ถ้าจอภาพมีความบกพร่อง เราก็จะแก้ไขภาพไป บนความบกพร่องด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ไฟล์ภาพต้นฉบับมีลักษณะของความสว่าง ที่เหมาะสมพอดีอยู่แล้วแต่จอภาพกลับแสดงผลที่สว่างน้อยไป จากปกติเราก็ใช้คำสั่งเพิ่มความสว่างลงไปในไฟล์ภาพมากกว่า เดิม ซึ่งบนจอภาพอาจจะแสดงผลที่สว่างขึ้นพอดีแต่ข้อมูลจริงๆ ของไฟล์ภาพกลับกลายเป็นภาพที่สว่างเกิน (Over Exposure) อย่างแน่นอน
อีกกรณีหนึ่งที่พบเจออยู ่บ ่อยครั้งก็คือ จอภาพมี ประสิทธิภาพในการแสดงสีที่ไม่ตรงกับข้อมูลจริงๆ ของ ไฟล์ภาพ เช่น สีจืดเกินไป หรือสีสดเกินไป หากเราไม่เข้าใจในข้อนี้ก็จะใช้ทั้งคำสั่งและเครื่องมือในการตกแต่ง ภาพเพื่อแก้ไขไปตามที่เห็น แต่ข้อมูลจริงของไฟล์นั้นกลับ เพี้ยนไปอีกทางหนึ่ง เช่น จอภาพแสดงผลภาพออกมาในโทนที่หนักไป ทางสีฟ้าเกินจริง เราก็พยายามแก้ไขไฟล์ไปในทางตรงกัน ข้ามโดยการปรับให้เป็นโทนสีเหลือง ปรากฏว่าข้อมูลใน ไฟล์จริงๆ นั้นกลายเป็นสีเหลืองหนักกว่าความเป็นจริง อย่างมาก
เมื่อไฟล์ถูกส่งไปยังอุปกรณ์Output ก็จะพบว่าสีสัน หรือความสว่างไม่เป็นไปอย่างที่เราเห็นจากจอภาพของ เรา…นั่นก็เพราะจอภาพของเราบกพร่องต่างหากหลายท่านคงมีประสบการณ์ที่ปริ้นท์ภาพออกมา แล้วไม่ตรงกับที่เห็นบนหน้าจอหรือที่มักจะเรียกกันว่า “สีเพี้ยน” นั่นเอง
ลองนึกดูง่ายๆ ว่า เพียงแค่การปรับความืด/สว่างของ จอภาพที่ต่างกันออกไป ก็แสดงผลของภาพที่คลาดเคลื่อน จากความเป็นจริงของไฟล์ต้นฉบับได้แล้ว กรณีที่ผิดพลาดเช่นนี้จะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นในงาน ระดับมืออาชีพ สีของสินค้าอาจจะไม่ถูกต้องตรงกับความเป็น จริงหรืออย่างที่ต้องการให้เป็น ซึ่งบางครั้งอาจตามมาด้วยความ เสียหายที่ใหญ่หลวงอย่างไม่คาดฝันได้เช่นกัน และแน่นอนว่า ลูกค้าย่อมจะต้องไม่ปลื้มแน่ๆ ทางออกสำหรับในเรื่องนี้ก็คือ เลือกใช้จอแสดงผลภาพที่มีคุณสมบัติในการแสดงผลภาพถ่ายที่ใกล้เคียงกับข้อมูลในไฟล์ ภาพจริงให้มากที่สุด ซึ่งจอภาพแต่ละรุ่นก็จะมีระดับความ สามารถในเรื่องนี้แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับจอภาพที่เน้น ความสำคัญในเรื่องนี้โดยตรงก็มักจะมีราคาที่สูงกว่าจอภาพธรรมดาทั่วไป
นอกจากการเปลี่ยนมาใช้จอภาพที่มีประสิทธิภาพเที่ยง ตรงแม่นยำแล้วหากต้องการประสิทธิภาพสูงสุดก็ยังต้องมีการ “คาลิเบรท” (Calibrate) การแสดงผลของจอให้ถูกต้อง แม่นยำมากยิ่งขึ้นด้วย โดยใช้เครื่องมือเฉพาะทางซึ่งจะเกาะติด อยู่บนหน้าจอ (ซึ่งคุณอาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้าง) อุปกรณ์ ชนิดนี้จะตรวจวัดลักษณะการแสดงผลทั้งสีสันและความสว่างของ จอภาพ แล้วปรับแต่งการแสดงผลทางซอฟต์แวร์ให้ยิ่งแม่นยำมากที่สุด ซึ่งอุปกรณ์บางรุ่นสามารถที่จะระบุการแสดงผลให้เข้า กับอุปกรณ์ Output ปลายทางแต่ละชนิดได้โดยตรง
จอภาพรุ่นระดับทั่วไปที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดนั้นมักจะ เน้นไปที่สีสันสดใสเหมาะต่อการแสดงผลเพื่อความบันเทิง ซึ่งไม่ เหมาะต่อการใช้งานสำหรับนักถ่ายภาพที่หวังผลเลิศและจริงจัง ต่องานภาพถ่ายสักเท่าไหร่เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าไฟล์ภาพของ เราจริงๆ แล้วเมื่อส่งไปยังขั้นตอน Output แล้วจะออกมาเป็น อย่างไร?แต่สำหรับจอภาพเฉพาะทางที่ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้แล้ว จะสามารถแสดงผลให้เห็นได้ใกล้เคียงกับขั้นตอน Output จริง ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจและเกิดความผิดพลาดต่อการปรับแต่ง ภาพให้น้อยลงได้มากการเลือกซื้อจอภาพสำหรับใช้ในงานภาพถ่ายจึงไม่ควร พิจารณาแต่เฉพาะในเรื่องของความละเอียด, ขนาดหน้าจอ หรือ เรื่องของราคาเท่านั้น เพราะหากเป็นจอภาพที่แสดงผลผิดเพี้ยน ไปจากความเป็นจริงก็อาจจะพาให้ไฟล์ภาพถ่ายจากกล้องและ เลนส์ราคาแพงของคุณเกิดหลงทางผิดเพี้ยนไปไกลจากความเป็นจริงได้ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง …จอภาพนั้นสำคัญฉะนี้นี่เอง
