GR พาเที่ยว(ทิพย์) : EP.1 สามจังหวัดชายแดนภาคใต้…มุมงดงามกับตาเอก

แม้ตอนนี้จะยังไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยว หลายคนก็อยากหยิบกล้องRicoh GR ออกไปเคาะสนิมบ้าง เพื่อกระตุ้นให้แรงบันดาลใจยังคงพลุกพล่านอยู่ในกาย เดือนนี้แอดมินขอนำภาพจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของคุณเอกรินทร์เอกอัจฉริยะวงศ์ หรือตาเอก มาจุดประกายในเรื่องแนวคิดของการถ่ายภาพกัน… โดยครั้งนี้จะเริ่มกันที่จังหวัดปัตตานี

 

มัสยิดกลาง

งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่มีต้นแบบมาจากทัชมาฮาล โดดเด่นด้วยยอดโดมสีเขียว ตัวอาคารเป็นสีครีม สีส้มอ่อน และสีเหลือง ด้านหน้าจะมีสระน้ำพุสีเขียวมรกต เริ่มก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2506 สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้นับถือศาสนาอิสลามแต่ละชุมชนมารวมตัวกัน ในการประกอบศาสนกิจ(พิธีละหมาด) หรือฟังคำอบรมสั่งสอนก่อนละหมาด สามารถจุคนได้ถึง 3,000 คน ตั้งอยู่บริเวณถนนยะรัง อำเภอเมืองปัตตานี ได้รับการยกย่องว่าเป็นมัสยิดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยทีเดียว ด้วยความกว้างใหญ่จึงสวม GW-4 เพื่อให้มุมมองกว้างเป็น 21mm แล้วรอจังหวะคนเดินเข้ามาในเฟรม เพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นขนาดของคนกับสถานที่ได้ชัดเจน

 

ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู้บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ เป็นศูนย์รวมใจคนไทยเชื้อสายจีนในปัตตานี เรียกอีกชื่อว่า ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ตำนานเล่าว่า เจ้าแม่เป็นชาวเมืองฮกเกี้ยน เดินทางมาเมืองไทยเพื่อตามหาพี่ชายให้กลับไปหามารดาที่บ้านเกิด แต่เมื่อมาถึงพี่ชายกลับแต่งงานและได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่นแล้ว นางจึงได้ผูกคอตายตามคำสัตย์ที่ว่า “หากตามพี่ชายกลับไปหามารดาไม่ได้ จะไม่ขอมีชีวิตอยู่ต่อไป” เมื่อเสียชีวิตแล้วลิ้มโต๊ะเคี่ยมจึงฝังศพนางที่ฮวงซุ้หมู่บ้านกรือเซะ ได้มีเรื่องเล่าขานว่า ดวงวิญญานแสดงอิทธิฤทธิ์จนเป็นที่เลื่องลือ ใครมาขอพรก็ให้โชคลาภ ทำมาค้าขายรุ่งเรือง ชาวบ้านจึงเกิดความศรัทธาสร้างศาลเพื่อเคารพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว สามารถไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลได้ ซึ่งตาเอกก็ไม่พลาดเก็บภาพมาฝากด้วยการใช้โหมด Snap ตั้งระยะไว้ที่ 2 เมตร จึงได้ภาพน้องนักศึกษามาแบบเป็นธรรมชาติ ช่วงค่ำๆผ่านไปก็เลยแวะถ่ายภาพอีกรอบด้วยการดันค่าความไวแสงไปที่ ISO 3200 ในแบบ Handheld

 

หอนาฬิกา

ตั้งอยู่แถวริมแม่น้ำปัตตานี เป็นหอนาฬิกาที่รวบรวมศิลปะวัฒนธรรมของสามวัฒนธรรมไว้ คือ ไทย จีน และมุสลิม เข้าไว้ด้วยกัน สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2554 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2556 ถือเป็นแลนด์มาร์คอีกจุดหนึ่งในตัวเมืองที่มักมีนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพทั้งในช่วงกลางวัน และกลางคืน ตาเอกมีเวลา Snap ด้วยกล้องตัวเล็กๆอย่าง GRIII เพียงแป๊บเดียว แต่ด้วยความคล่องตัวจึงได้ฟ้าสวยๆในมุมกว้างมาฝากกัน

 

มัสยิดกรือเซะ

มัสยิดเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 22 ตรงกับสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่าสร้างขึ้นโดยใคร และสมัยใดกันแน่ มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า มัสยิดปิตูกรือบัน แปลว่า มัสยิดที่มีประตูรูปโค้ง เป็นสถาปัตยกรรมเชิงช่างผสมผสานศิลปะแห่งอาหรับ ก่อด้วยอิฐแดง ผลิตที่ Tarab Bata หรือหมู่บ้านกะมิยอ ได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ในปี พ.ศ. 2478 โดยกรมศิลปากร ตาเอกก็แวะเยี่ยมชมร่องรอยประวัติศาสตร์และไม่พลาดบันทึกภาพมาฝากกัน

 

 

ปัตตานียังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งให้ได้มาเยี่ยมชม เพื่อนๆที่สนใจก็ลองหาข้อมูลไว้ล่วงหน้า เมื่อสถานการณ์คลี่คลายค่อยปักหมุดมาตะลอนเที่ยวถ่ายภาพด้วยกล้องตัวโปรดของคุณ…อ้อ! เกือบลืมบอกให้แวะไปกาลนานคาเฟ่ ที่มีเมนูดับร้อน ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ หรือขนม ส่วนตาเอกติดใจ คาปูชิโน่ปุด ปุด เมนูที่เก็บภาพด้วยโหมดมาโครของ GRก่อนจะหายไปในพริบตาด้วยความอร่อย หรือหิวกันแน่..ฝากแวะไปพิสูจน์ความจริงกันด้วยครับ

%d bloggers like this: